Treasure from the Silver Bank
A treasure at silver bank gold was mined In happier times, 28 days out in the sea Silver bank. Treasure from the moment as if. One day the inspired king to have intuition and heart feeling. was ready to start. There will be one day he will return to the land of treasure. With the new table with round shape. .."One day my sword shall be my pen" The knight of nightingale.
translate
Thursday, August 22, 2019
Thursday, March 26, 2015
Zir Lanzlotte
As you are a
murderer, "If I was a murderer. I ask you, Lord, and do not spare me, but
I did not kill them by treachery, "but he wanted to testify
wholeheartedly. But the audience to interpret deeper than that. Sir
Lanzlotte is clutching a dagger in his hand, and say - I know that you mean? -
And that means Sir Molak
Wednesday, March 25, 2015
.......อัศวินการเวก
ฆาตกรอย่างที่เจ้าเป็น”หากข้าเป็นฆาตกร ก็ขอให้พระเจ้าอย่าปรานี ข้าเถิดท่าน แต่ข้าไม่ได้ฆ่าพวกนั้นด้วยการทรยศหักหลัง” แต่เขาต้องการจะยืนยันความบริสุทธิ์ใจ แต่ผู้ฟังกลับตีความลึกลงไปกว่านั้น
การเวกซึ่งกำกริชอยู่ในมือแล้วร้องว่า – ข้ารู้ดีอยู่ว่าเจ้าหมายความว่ากระไร –
และนั่นหมายถึงท่านเซอร์ลาโมรัค.......
อาร์คบิชอบ แห่งโรเชสเตอร์ชูถุงมือขึ้ “การเวก ข
เราทะเลาะกันเรื่องนี้ในเวลาอื่นไม่ได้หรือ
กจเฉพาะหน้าของเราคือแก้กรรมต่างวาระในข้อกล่าวหาให้แก่พระราชินี ไม่ต้องสงสัยว่า
เวอร์ลานซ์สลอต คงอยากจะให้อรรถาธิบายเรื่องที่เดือดร้อนอยู่นี้
เพื่ให้ศาสนาจักรมีเหตุผลรองรับในการไกล่เกลี่ยประนีประนอม ข ขอขอบใจท่าน”
ส่วนการเวกแอบสังเกตูมองดูเขา
จนกระทั่งสุรเสียงเหนื่อยอ่อนของพระราชาทรงพระกระแสรรับสั่งให้พวกเขาดำเนินการต่อ
และโต้ตอบกันด้วยวาจาสามหาวไร้ความสละสลวยเยี่ยงชนชั้นสูง
ส่วนสำเนียงก็กระตุกติดขัดแบบอ๊อกร์นี่จนนับได้หลายๆครั้ง
“เจ้าถูกจับตัวได้ขณะอยู่กับเจ้าหญิง”
*
ข้าแต่ท่าน...มีคนได้มาตามตัวข้าไปเข้าเฝ้าองค์หญิง ส่วนข้านั้นไม่ทันรู้สาเหตุ
ก็ได้นำตัวเองเข้าไปอยู่ในห้องนั้น ไม่ทันไรก็ได้ยินท่านเซอรืกราเวน
และเซอร์มอร์เดรดมาเขย่าทุบประตูห้ององค์หญิง ร้องเรียกข้าว่าศตรูทรยศและคนกบฏ*
*พวกเขาเรียกถูกต้องแล้วนี่*
ลานซ์สลอ์ตหันหน้ามาตามเสียง
*ช้าแต่เซอร์การเวก ในคำร้องตามข้อพิพาทเหล่านี้
พวกเขาได้พิสูจน์ตนเองแล้วว่าไม่ถูกต้อง ณ.ทีนี้ข้าขอน้อมรับว่ากล่าวแทนพระราชินี
หาใช่แทนตัวข้าพเจ้าเองไม่*
*เอาละ เอาละ ท่านเซอร์
ลานซ์สลอ์ต อัศวินผู้อับจนหันไปหา
บุคคลคนแรกที่เขารักด้วยความมั่นคง เพื่อนผู้เก่าแก่ของเขา เขาพูดด้วยคำสามัญ
*ทรงให้อภัยเราไม่ได้หรือ
เราเป็นเพื่อนกันอีกไม่ได้หรือ เรากลับมาด้วยความสำนึกำผิดนะ อาณ์เธอร์
ทั้งที่เราไม่จำเป็นต้องกลับมาเลยก็ได้
ขอท่านโปรดนึกถึงวันเวลาเก่าๆที่เราต่อสู้อยู่ด้วยกันและเป็นเพื่อนกันไม่ได้หรือ
เรื่องเลวร้ายทั้งปวงนี้จะถูกชจัดปัดเป่าไปได้ด้วยไมตรีจิตของเซอร์การเวก ถ้าท่านมีเมตตาต่อเรา*
*ได้โปรดพระราชทานความยุติธรรม* อัศวินผมแดงกล่าว
*เจ้าได้ให้ความเมตตาแก่น้องชายของข้าหรือเปล่าละ*
*ข้าให้ความเมตตาแก่พวกท่านทุกคนนะ เซอร์การเวก
ข้ากล้าพูดโดยไม่โอ้อวดว่า
หลายๆคนในห้องนี้เป็นหนี้บุยคุณช้าที่ช่วยปลดปล่อยให้มีอิสรภาพ
หากมิใช่ให้รอดชีวิต ข้าต่อสู้แทนพระราชินีในการอื่นมาแล้ว
ดังนั้นทำไมข้าจะไม่ต่อสู้ในกรณีของตนเองเล่า และอีกอย่าง
ข้าเคยต่อสู้เพื่อท่านมาแล้วเหมือนกันนะ เวอร์การเวก
และช่วยให้ท่านพ้นความตายอันไร้เกียรติด้วย*
*ณ บัดนี้มีอ๊อร์กนีย์
เหลืออยู่สองคน*
การเวกสลัดศรีษะไปข้างหลัง
*พระราชาอาจจะทรงกระทำการตามแต่พระทัย ข้าเองตัดสินใจไว้แล้ว
หกเดือนก่อนหน้านี้เมื่อข้าพบเซอร์กาเรธ นอนตายจมกองเลือด ไม่ได้ถืออาวุธ*
*ต่อหน้าพระเจ้า
ข้าปรารถนาให้เขามีอาวุธ เขาจะได้ต้านทานการต่อสู้กับข้าได้และเขาอาจจะฆ่าข้าตาย
จะได้ช่วยให้ข้าพ้นทุกข์จากความทรมานนี้*
*ช่างพูดได้เพราะสูงส่งเหลือเกิน*
ชายสูงอายุรีบพูดออกมาเป็นพรุสวาทแก่ใครก็ตามที่ยอมฟัง
*ทำไมท่านอยากเชื่อว่า
ข้าอยากฆ่าพวกเขาเล่า ข้าเป็นคนแต่งตั้งกาเรธเป็นอัศวินนะ ข้ารักเขา
วินาทีที่ช้าได้ยินว่าเขาตายแล้ว ข้ารู้ว่าท่านไม่มีวันยอมให้อภัย ข้ารู้ว่าความหวังสิ้นสุดลงแล้ว
การฆ่าเซอรืกาเณธนะ มันขัดกับจรรยาบรรณของข้านะ*
มอร์เดร็ดกระซิบ *มันขัดต่อใจของเรา*
ลานซ์สลอ์ต
พยายามหว่านล้อมเป้นครั้งสุดท้าย
*การเวก
อภัยให้ช้าเถิด หัวใจช้าเจ็บปวดเหลือแสนสำหรับสิ่งที่ข้าทำไป
ข้ารู้ว่ามันทำร้ายหัวใจท่านมากเพียงไร เพราะมันทำร้ายหัวใจของข้าเช่นกัน
ท่านจะไม่ยอมให้ประเทศเรามีสันติสุขหรือ
หากข้าสำนึกผิดก็อย่าบีบให้ข้าต้องต่อสู้เพื่อรักษาชีวิตเลย
แต่ปล่อยให้ช้าจาริกแสวงบุญไป เพื่อเห็นแก่กาเรธเถิด ข้าจะออกเดินทางจากแซนด์วิช
โดยสรวมเสื้อตัวเดียว และเดินเท้าเปล่าไปยังคาร์ไลส์ล
และข้าจะสร้างวัดอุทิศให้เขาทุกๆสิบไมลืระหว่างทาง*
*เลือดของกาเรธ มอร์เดร็ดกล่าว* *จะต้องไม่ได้รับการชดใช้ด้วยการสร้างวัด
ไม่ว่าท่ายบิชอบจากโรเชสเตอร์จะพอใจหรือไม่เพียงใด*
ความอดทนของอัศวินสูงอายุสิ้นสุดลง
*หุบปากเสีย*
การเวกเป็นฟฟืนเป็นไฟขึ้นโดยฉับพลัน
*ทำตัวให้ดีนะเจ้าฆาตกร
หากไม่เราจะแทงเจ้าให้ตาย แทบพระบาทของพระราชา นี่แหละ*
*จะต้องใช้ใ*
ท่านบิช๊อบเขาขวางไว้อีกครั้ง
*เซอร์ลานซลอตได้โปรดเถิด
ขอให้เราบางคนได้ควบคุมอารมณ์ และสมบัติผู้ดีไว้ตรมควรเถิด การเวก นั่งลง
เราได้ข้อเสนอจะปฏิบัติการสำนึกบาปจะชดใช้แก่เลือดของกาเรธ
ซึ่งจะทำให้สงครามยุติลงได้ ขอคำตอบจากท่านด้วยเถิด*
หลังจากเกิดความเงียบที่ทุกคนคาดหวังคำตอบอยู่ครู่หนึ่ง
ชายร่างยักษ์ผมสีทรายก็กล่าวด้วยเสียงสูงขึ้นว่า
*ข้าได้ฟังคำเสนอของเซอร์ลานซลอตและข้อเสนอที่ยิ่งใหญ่ของเขาแล้ว แต่ทว่าเขาได้สังหารน้องชายของข้าไป
ข้าไม่มีวันให้อภัยได้ ด้วยเขาทรยศต่อเซอรืกาเรธ หากท่านน้าของข้าพระเจ้าอาร์เธอร์
มีพระประสงค์จะยอมคล้อยตามเขา พระราชาก็จะสูญเสียความภักดีของข้าและชาวเกลทุกคน
ไม่ว่าเราจะพุดถึงเรื่องนี้อย่างไร เราต่างก็รู้ความจริง ชายคนนี้เป็นคนทรยศที่ถูกเปิดโปงต่อพระราชาและตัวข้า*
*ไม่มีใครสักคนยังมีชีวิตอยู่เรียกข้าว่าคนทรยศนะ
การเวกข้าอธิบายเรื่องพระราชินีไปแล้ว*
*พอกันทีเรื่องนั้น
ข้าไม่ขอพูดอะไรเกี่ยวกับสตรีคนนั้น หากไม่บังควรจะพูด ข้าพูดถึงการตัดสินวินิจฉัยเจ้าต่างหาก*
*หากเป็นพระราชวินิจฉัยข้าจะขอน้อมรับ*
*พระราชาทรงตกลงกับข้าแล้วก่อนเจ้าจะมา*
*อาร์เธอร์*
*กราบบังคมทูลพระราชาตามพระอิสริยยศด้วย*
*ขอเดชะเป็นความจริงหรือนี่*
พระองค์ทรงค้อมพระเศียร
อย่างน้อย
ขอข้าได้ยินจากพระโอษฐ์ด้วยเถิด*
มอร์เดร็ด ทูลว่า *ตรัสซี่ท่านพ่อ*
พระองค์ได้แต่ส่ายพระเศียร
แต่พระเนตรจรดอยู่แทบพระบาท
*ตรัสซิ*
*ลานซลอต* พระสุรเสียงรับสั่ง
*เจ้ารู้ว่าความจริงขวางกั้นเราไว้อย่างไร โต๊ะกลมของข้าทลายไปแล้ว อัศวินของข้า
ถ้าไม่ตายก็จากไป ข้าไม่เคยหาเรื่องวิวาทกับเจ้า*..... *Or me or you
*
*แต่เราจะยุติมันมิได้หรือ*
"การเวกบอกว่าใดั*
"พระองค์เริ่มรับสั่งเบาแสนเบา
*การเวก*
*ความยุติธรรม*
การเวกลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางเจ้าเลห์
คุกคาม ยืนตระหง่าน หน้าง้ำ
*พระราชาผู้เป็นเจ้าเหนือหัวของข้า
และท่านน้าของข้า ศาลมีประสงค์จะให้ข้าอ่าน คำพิพากษาต่อหน้าคนทรยศเนรคุณ ผู้นี้*
เกิดความเงียบกริบกันไปทั่ว
*ใช่ไหม-ถ้าเช่นนั้นขอให้ทุกคนรู้ว่านี่เป็นพระราชโองการ*
*พระราชินีจะทรงกลับคืนสู่พระราชาด้วยเสรีภาพเช่นเดิม
และนางจะไม่มีภยันตรายใดๆตามที่คาดไว้ก่อนหน้านี้และนี่เป็นเจตนารมณ์ของพระสันตะปาปา*
*ส่วน เจ้า เซอร์ ลานซล็อต เจ้าจะต้องถูกเนรเทศจากราชอาณาจักรนี้ภายในสิบห้าวัน
ในฐานะคนเนรคุณที่ถูกเปิดโปง และพระเจ้าโปรดเป็นสักขีพระยาน
เราจะตามเจ้าไปหลังจากเวลานั้น
เพื่อทำลายประสาทที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศฝรั่งเศสให้ลงมากองบนธรณีท่วมหูเจ้า*
*การเวก* เขาขอร้องอย่างเจ็บปวด
*อย่าตามข้าไปเลยข้าจะน้อมรับการถุกเนรเทศ
ข้าจะใช้ชีวิตอยู่ในประสาทฝรั่งเศสของข้า แต่อย่าตามข้าไปเลย การเวก
อย่าให้สงครามยืดเยื้อตลอดกาล*
*ปล่อยให้เรื่องนั้นเป็นวิจารณญาณของคนที่ดีกว่าเจ้าเถิด*
ปราสาทนั้นเป็นพระราชสมบัติ*
*ถ้าท่านตามข้าไปนะ การเวก
ก็ขออย่าท้าข้าสู้เลย อย่าให้อาร์เธอรืมาสู้กับข้า
ข้าไม่สามารถสู้กับเพื่อนของข้าได้ การเวกโปรดเห็นแก่พระเจ้าเถิด
อย่าทำให้เราต้องสู้กันเลย*
*เลิกพูดได้แล้ว มอบตัวพระราชินีมา
แล้วออกจากราชสำนักนี้ไปเร็วไว
ลานซล็อต เขามองดูพระพักตรของกษัตริย์แห่งอังกฤษแล้วเลยไปที่ผู้สร้างความทรมานใจให้แก่เขา
เขาหันหน้าอย่างช้าๆสู่พระราชินีผู้วึ่งไม่ได้เอยพระโอษฐ์ตรัสอะไรสักคำ
มันเป็นโศกนาฎกรรมที่เขาต้องก้าวข้ามด้วยความสูงส่งด้วยศรีษะที่เชิด
*ถ้ากระนั้น ข้าแต่พระนาง
ดูเหมือนว่าเราต้องจากกันแล้ว*
นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่ เซอร์ลานซล็อต
พระเจ้าอาร์เธอร์ และพระนางกวินีเวียร์ อยู่ด้วยกันพร้อมหน้า
นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่
เซอร์ลานซล็อต พระเจ้าอาร์เธอร์ และพระนางกวินีเวียร์ อยู่ด้วยกันพร้อมหน้า
ห่านป่าที่กระพือปีกกลับรังในยามสนธยาแทบฝ่ากระแสลมไปไม่ไหว
ในมหาสมุทรทิศตะวันตก มีลมและไซโครน ทำให้ท้องทะเลปั่นป่วน หอบน้ำเป็นเกลียวพวยพุ่งจากผิวน้ำ
พวยพุ่งเป็นลำและแตกกระเซ็นเป็นฟองฟู ต้นไม้ล้มระเนระนาดบนภาคพื้นแผ่นดิน Sycamore เป็นต้นไม้จำพวก Ficus sinvsycomorus หรือ occidentalis มีลักษณะทางตะวันตก
เป็นต้นไม้เนื้อแข็ง และมีลำต้นแยกเป็นสองต้น
และแต่ละต้นก็ส่งเสียงคำรามเข้าใส่กัน
กิ่งไม้ถูกลมฝนกระหน่ำหักพาดลำต้นแน่นิ่งอยู่กับพื้นดินทำให้ฝูงนกบินถลาร่อนขนานพื้นทำให้กรงเล็บของแต่ละตังคลี่ตัวออกมาทำหน้าที่เป็นคล้ายสมอเรือรบเหยี่ยว
เพเรกกิน เกาะอยู่บนหน้าผาขนเปียกชุ่มจนลู่แนบลำตัว
ใต้บานประตูของปราสาท
ลมกระแทกใส่เสื่อกกปูพื้น ส่งเสียงวาบวินอยู่ภายใต้บันใดเวียน
เขย่าบานเกร็ดสั่นสะเทือนผ่านหน้าต่างกระจกหนา หอคอยสั่นสะเทือนเหมือนเสียงดนตรี
ลาคอนชาโต้ขนานกับสายลม
กระทบคลื่นเสียงผ่านแนวระนาบสัมผัสพรมปักด้วยดิ้เงินแวววาวดังกระหึ่มเหมือนมีเครื่องสายนำโดยแชลโล่ของ
นักแต่งเพลงชื่อดัง *มารี มายรัส* ในเพลง *ระฆังของเทพยดา จีนิวีบ*....
บอร์ส
และ เบลโอเบรีสกำลังหมอบเหนือกองไฟลุกโพลง เหมืนในภาพวาด..
*แต่ทำไมพวกเขาไปกันเร็วนักเล่า*
บอร์สถามอย่างมีข้อกังขา
*ข้าไม่เคยเห็นกองทัพที่ไหนยกกำลังมาล้อมเมืองไว้แต่ก็ยกทัพกลับอย่างรวดเร็วขนาดนั้น
โดยที่พวกเขารื้อถอนค่ายไปเพียงแค่ชั่วข้ามคืนหายไปหมดเหมือนถูกลมหอบไป*
*คงจะได้ข่าวร้าย คงจะต้องมีเรื่องไม่ชอบมาพากลในอังกฤษเกิดขึ้นก็เป็นได้*
*ถ้าพวกเขาต้องการยกโทษให้ลานสล๊อตก็คงส่งสาสน์มาแล้ว*
*ดูแปลกอยู่หรอกโดยกลับไปปุบปับโดยไม่บอกกล่าว*
*เจ้าคิดว่าอาจเกิดกบฏขึ้นใน
คอร์นวอลล์ หรือเปล่า หรือในเวลล์หรือบางทีในไอร์แลนด์*
*มีพวกบรรพชนอยู่นี่นา*
เบลโอเบรีสเห็นพ้องออกอาการมึนงง
*ข้าไม่คิดว่าเป็นเรื่องกบฏนะ
ข้าคิดว่าพระราชาทรงประชวร และต้องอัญเชิญกลับโดยด่วน หรือไม่การเวกต้องป่วยหนัก ที่โดนลานสล๊อตฟาดด้วยโล่
ให้เป็นกำนัลถึงสองครั้ง อาจจะโดนที่ศิรษะของเขาอย่างจัง*
*ก็เป็นได้*
บอร์สเคาะไฟแรงๆ
*จากไปแบบนั้น แล้วก็ไม่พูดอะไรสักคำ*
*ทำไมลานสล๊อตไม่ทำอะไรบ้างละ*
*จะให้เขาทำอะไรได้*
*ไม่รู้สิ*
*พระเจ้าอยู่หัวขับเขาออกจากประเทศนี่*
*ใช่*
*ง้นก็ไม่มีอะไรให้ทำเลย*
*ถึงอย่างไร*
เบลโอเบริส กล่าว *ข้าก็หวังว่าเขาจะทำอะไรบ้าง*
ประตูที่ตีนบันไดเปิดออกพร้อมด้วยเสียงย่ำบันไดเวียนลงมาจากหอคอยเล็ก
พรมทำด้วยต้นกกตั้งตรงขึ้น ควันพวยพุ่งจากกองไฟในเตา
และเสียงของลานสล๊อตดังรอดเสียงลมลั่น
*บอร์ส เบลโอริส เดมาริส*
*อยู่ตรงนี้*
*ตรงไหน*
**บนนี้
ได้ยินเสียงประตูปิดดังมาไกลๆ ความเงียบกลับเข้ามาในห้อง เสื่อทอต้นกกล้มลงพื้นกลับเข้าที่เดิม และเสียงฝีเท้าของลานสล๊อตดังชัดเจนขึ้นสะท้อนก้องตามขั้นบันใดหิน
ทั้งๆที่เมื่อสักครู่เสียงตะโกนของเขาฟังแทบไม่ออก
เขาเข้ามาอย่างรีบร้อนมือถือจดหมาย ลั่นเสียงกระแอมไอ *บอร์ส เบลโอริส เดมาริส*
*ข้าตามหาเจ้าอยู่*
*มีจดหมายมาจากอังกฤษ*
พวกเขายืนขึ้น
*นกส่งสารถูกพัดขึ้นฝั่ง
ไกลจากชายฝั่งที่นี่ขึ้นไปห้าไมล์*
*เราต้องออกเดินทางทันทีเลย*
*”ปอังกฤษหรือ*
*ใช่*
*ฬว่
ไปอังกฤษซิ ข้าได้บอกไลน์โอแนล ให้จัดการเรื่องพาหนะแล้ว
และข้าต้องการให้เจ้า บอล์ส จัดการเรื่องเสบียงนะ*
*เราต้องรอให้กำลังลมอ่อนตัวลงก่อน*
*เราจะไปทำไมหรือ*
บอล์สถาม *ท่านต้องบอกเราว่ามีข่าวอะไร*
*ข่วหรือ*
*ข่าหรือ*
เขาพูดตะกุกตะกักสุ้มเสียงคลุมเครือ
*ยังไม่มีเวลาสำหรับช่าวหรอก
ข้าจะเล่าให้ฟังในเรือ เอ้า อ่านจดหมายนี่ก่อน*
เขายื่นจดหมายให้บอล์ส
แล้วออกไปก่อนที่พวกเขาจะทันตอบ *ว่าไง*
*อ่านสิ*
*ข้าไม่รู้ว่าใครเขียนมาด้วยซ้ำ*
*อ่านไปก็คงรู้เองน่า*
ลานสล๊อตกลับเข้ามาก่อนที่พวกเขาจะอ่านได้ไปไกลกว่าวันที่
*เบลโอโบริส*เขาบอก *ข้าลืมไป
ข้าต้องการให้เจ้าดูแลเรื่องม้า เอาจดหมายมาก่อน ถ้าเจ้าสองคนค่อยๆสะกดละก็
เจ้าต้องอ่านอยู่ทั้งคืนแน่*
*เขียนมาว่าอย่างไรละ*
*ข่าวนี้มาจากนกสื่สาร
ดูเหมือนว่า มอร์เดร๊ดเป็นกบฏต่อพระเจ้าอาณ์เธอร์ ประกาศตนเป็นประมุขแห่งอังกฤษ
และเขาได้ขอให้ วอนีเวียร์ แต่งงานกับเขา*
*แต่นางแต่งงานแล้วนี่*
เบลโอเบรีสท้วง
*นั่นเป็นสาเหตูที่พวกนั้นเลิกปิดล้อมพวกเราไง*
*แล้วดูเหมือนว่ามอร์เดร้ดยกทัพไปรวมที่เค็นต์
เพื่อขัดขวางไม่ให้พระเจ้าอยู่หัวขึ้นฝั่ง*
*เขาประกาศไปว่าพระเจ้าอาร์เธอร์ทรงสวรรคตแล้ว*
*เขากำลังล้อมจับพระราชินีโดยระดมยิงปืนใหญ่ไปที่หอคอยแห่งลอนดอน*
*ปืนใหญ่*
*ใช่
เขามารอพบอาร์เธอร์ที่โดเวอร์ และทำการสู้รบเพื่อมิให้พระองค์ขึ้นฝั่ง สู้กันทั้งบนบกและในน้ำ
แต่พระเจ้าอยู่หัวทรงขึ้นฝั่งได้ รอวันประกาศชัยชนะ*
*ใครส่งจดหมายมา*
ลานสลอ๊ตทรุดตัวลงนั่งทันที
*มาจาก ขุนพลการเวก*
*การเวกที่น่าสงสาร
เขาตายแล้ว*
เบลโอเบริสตั้งกระทู้
*ตายแล้วเขียนได้อย่างไร*
*สารนั้นอ่านแล้วน่าสลดใจเหลือเกิน*
*การเวกเป็นคนดี
พวกเจ้าทุกคนที่บังคับให้ข้าสู้กับเขา โดยไม่ได้เห็นแก่จิตใจที่งดงามของเขา*
*อ่าซิ* ฮอร์สบอกกล่าวอย่างร้อนใจ
*ดูเหมือนว่าแผลที่ข้าฟาดหัวเขามันฉกรรจ์มาก
เขาไม่ควรจะรีบเดินทางไปหรอก แต่เขาว้าเหว่ทุกข์ทรมานและถูกหักหลัง*
น้องชายคนเล้กกลายเป็นคนทรยศ เขายากรานจะกลับไปช่วยพระเจ้าอยู่หัว ในศึกตอนขึ้นฝั่ง
เขาพยายามจะสู้ เคราะห์ร้ายเขาถูกตีซ้ำตรงลอยแผลเก่า และเสียชีวิตในอีกสองสามชั่วโมง
ต่อมา
*ข้าไม่เห็นว่าทำไมเจ้าถึงต้องเดือดร้อนขนาดนี้*
*ฟังจดหมายนี่สิ*
*ลานสลอ๊ต
ถือจดหมายไปที่หน้าต่างและเงียบลง ขณะที่พินิจดูจดหมาย
มีอะไรที่หน้าตื้นตันอยู่ในนั้น*
*แต่เซอร์ลานสล๊อต
ยอดอัศวินผู้สูงส่งโดยที่ข้าได้ประจักษในชีวิตของข้า ข้า-เซอร์การเวก
อัศวินโต๊ะกลมโอรสของพระเจ้า ล๊อต แห่งอ๊อกนีย์
บุตรแห่งพระเชษฐ์ภคินีแห่งพระเจ้าอยู่หัวอาณ์เธอร์ผู้ประเสริฐ
ขอแสดงความเคารพมายังท่าน*
*และข้าขอให้โลกทั้งโลกตระหนักว่า
ข้าเซอร์การเวก ขอตายด้วยน้ำมือของท่าน และมิใช่ด้วยเจตนาของท่าน แต่เป็นเจตจำนงของข้าเอง ข้าขอวิงวอนให้ท่าน เซอร์ลานสล๊อต กลับสู่ราชอาณาจักรแห่งนี้อีกครั้ง
เพื่อมาเยี่ยมหลุมศพของข้า และสวดภาวนาให้แก่หลุมศพที่ข้านอนรอคอยท่านอยู่โปรดภาวนาให้แก่ดวงวิญญาณของข้าด้วยข
และวันนี้ที่ข้าเขียนสาสน์ฉบับนี้
ข้าบาดเจ็บถึงฆาตด้วยบาดแผลที่มาจากน้ำมือท่าน เซอร์ลานสล๊อต ด้วยข้าพอใจที่จะไม่ถูกสังหารด้วยบุคคลผู้ประเสริฐไปกว่านี้อีกแล้ว.
*นอกจากนั้น เซอร์ลานสล๊อต
เพื่อความรักที่มีอยู่ระหว่างเรา....*
ลานสล๊อต
หยุดอ่านและโยนสาสน์ลงบนโต๊ะ *เอา* เขาบอก *ข้าอ่านต่อไปไม่ไหวแล้ว
เขาขอให้ข้ารีบเดินทางไปเพื่อช่วยพระเจ้าอยู่หัวต่อสู้กับน้องชายของเขาและญาติคนสุดท้ายของเขา
การเวกรักญาติของเขามากนะ บอร์ และท้ายที่สุดเขาก็ไม่เหลือใครเลย แต่เขายังเขียนมายกโทษให้ข้า เขาบอกด้วยซ้ำว่าเป็นความผิดของเขาเอง
พระเจ้าทรงทราบว่าเขาเป็นพี่ชายที่ดีเหลือเกิน*
*แล้วเราจะทำอย่างไรเรื่องพระเจ้าอยู่หัว*ฃ*เราต้องไปอังกฤษให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
มอร์เด็รดถอยทัพไปที่แกรนเบอรี่แล้ว
เขากำลังจะออกศึกครั้งใหม่ที่นั่น
ตอนนี้มันอาจจะจบลงแล้วก็ได้
ข่าวนี้มาถึงล่าช้าเพราะติดพายุ ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับความเร็วแล้ว*
/เบลโอเบริสบอกว่า *ข้าจะไปดูเรื่องม้า เราจะออกเรือกันเมื่อไหร่*
*พรุ่งนี้ คืนนี้ เดี๋ยวนี้เลย
เมื่อลมซาลง เร็วเข้าเถิด*
*แล้วเจ้านะบอร์ส เรื่องเสบียง*
*ตกลง*
บอร์สซึ่งเหลืออยู่คนเดียวกับลมพายุ
หยิบจดหมายขึ้นมาอย่างกระหายไคร่รู้ เขาตะแคงจดหมายลงรับแสงไฟทีเริ่มจะอ่อน
เขาสะกดตอนท้ายจดหมาย ปากขยับอ่านคำ
*และวันที่ข้าเขียนจดหมายฉบับนี้
เพียงสองชั่วโมงครึ่งก่อนความตายมาถึง เขียนด้วยลายมือของข้าเอง
และจารึกนามไว้ด้วยเลือดจากหัวใจข้า ต้องมีสักวันหนึ่งที่พระราชาผู้ชราจะทรงพระปรีชาและพระหฤทัยรู้สึกสดชื่นขึ้น
แบละพร้อมจะเริ่มต้นใหม่ จะมีสักวันหนึ่ง
ที่พระองค์จะเสด็จกลับมาสู่ดินแดนนกการเวก พร้อมด้วยโต๊ะกลมตัวใหม่ที่ไม่มีเหลี่ยม
ดังเช่นในโลกใบนี้ก็ม่มีเหลี่ยม.. ต้องมีวันหนึ่งสัญชาตญาณระมัดระวังกษัตริย์องค์เก่าพร้อมด้วยอัศวินในหัวใจที่รู้สึกสดชื่น
พร้อมที่จะกลับมาสู่แผ่นดินดินอีกา และก็พร้อมที่จะเริ่มต้นสร้างนกวายุพักตร์โดย เหยีบย่ำแผ่นดินวายุภักษ์
พร้อมกับ ลบเหลี่ยมใหม่โดยไม่ต้องสร้างโต๊ะให้เป๊นวงกลม ในขณะที่โลกต้องการมากกว่า
อัศวินโตะกลม.. ที่จะปฏิรูปวัฒนธรรมหวังว่าการเป็นเยาวชนในการเขียนและอ่าน
ด้วยสติและเหตุผล
อัศวินการเวก-แห่งอ๊อกนีย์*
Sunday, November 3, 2013
Friday, July 5, 2013
Monday, December 3, 2012
Subscribe to:
Posts (Atom)