ฆาตกรอย่างที่เจ้าเป็น”หากข้าเป็นฆาตกร ก็ขอให้พระเจ้าอย่าปรานี ข้าเถิดท่าน แต่ข้าไม่ได้ฆ่าพวกนั้นด้วยการทรยศหักหลัง” แต่เขาต้องการจะยืนยันความบริสุทธิ์ใจ แต่ผู้ฟังกลับตีความลึกลงไปกว่านั้น
การเวกซึ่งกำกริชอยู่ในมือแล้วร้องว่า – ข้ารู้ดีอยู่ว่าเจ้าหมายความว่ากระไร –
และนั่นหมายถึงท่านเซอร์ลาโมรัค.......
อาร์คบิชอบ แห่งโรเชสเตอร์ชูถุงมือขึ้ “การเวก ข
เราทะเลาะกันเรื่องนี้ในเวลาอื่นไม่ได้หรือ
กจเฉพาะหน้าของเราคือแก้กรรมต่างวาระในข้อกล่าวหาให้แก่พระราชินี ไม่ต้องสงสัยว่า
เวอร์ลานซ์สลอต คงอยากจะให้อรรถาธิบายเรื่องที่เดือดร้อนอยู่นี้
เพื่ให้ศาสนาจักรมีเหตุผลรองรับในการไกล่เกลี่ยประนีประนอม ข ขอขอบใจท่าน”
ส่วนการเวกแอบสังเกตูมองดูเขา
จนกระทั่งสุรเสียงเหนื่อยอ่อนของพระราชาทรงพระกระแสรรับสั่งให้พวกเขาดำเนินการต่อ
และโต้ตอบกันด้วยวาจาสามหาวไร้ความสละสลวยเยี่ยงชนชั้นสูง
ส่วนสำเนียงก็กระตุกติดขัดแบบอ๊อกร์นี่จนนับได้หลายๆครั้ง
“เจ้าถูกจับตัวได้ขณะอยู่กับเจ้าหญิง”
*
ข้าแต่ท่าน...มีคนได้มาตามตัวข้าไปเข้าเฝ้าองค์หญิง ส่วนข้านั้นไม่ทันรู้สาเหตุ
ก็ได้นำตัวเองเข้าไปอยู่ในห้องนั้น ไม่ทันไรก็ได้ยินท่านเซอรืกราเวน
และเซอร์มอร์เดรดมาเขย่าทุบประตูห้ององค์หญิง ร้องเรียกข้าว่าศตรูทรยศและคนกบฏ*
*พวกเขาเรียกถูกต้องแล้วนี่*
ลานซ์สลอ์ตหันหน้ามาตามเสียง
*ช้าแต่เซอร์การเวก ในคำร้องตามข้อพิพาทเหล่านี้
พวกเขาได้พิสูจน์ตนเองแล้วว่าไม่ถูกต้อง ณ.ทีนี้ข้าขอน้อมรับว่ากล่าวแทนพระราชินี
หาใช่แทนตัวข้าพเจ้าเองไม่*
*เอาละ เอาละ ท่านเซอร์
ลานซ์สลอ์ต อัศวินผู้อับจนหันไปหา
บุคคลคนแรกที่เขารักด้วยความมั่นคง เพื่อนผู้เก่าแก่ของเขา เขาพูดด้วยคำสามัญ
*ทรงให้อภัยเราไม่ได้หรือ
เราเป็นเพื่อนกันอีกไม่ได้หรือ เรากลับมาด้วยความสำนึกำผิดนะ อาณ์เธอร์
ทั้งที่เราไม่จำเป็นต้องกลับมาเลยก็ได้
ขอท่านโปรดนึกถึงวันเวลาเก่าๆที่เราต่อสู้อยู่ด้วยกันและเป็นเพื่อนกันไม่ได้หรือ
เรื่องเลวร้ายทั้งปวงนี้จะถูกชจัดปัดเป่าไปได้ด้วยไมตรีจิตของเซอร์การเวก ถ้าท่านมีเมตตาต่อเรา*
*ได้โปรดพระราชทานความยุติธรรม* อัศวินผมแดงกล่าว
*เจ้าได้ให้ความเมตตาแก่น้องชายของข้าหรือเปล่าละ*
*ข้าให้ความเมตตาแก่พวกท่านทุกคนนะ เซอร์การเวก
ข้ากล้าพูดโดยไม่โอ้อวดว่า
หลายๆคนในห้องนี้เป็นหนี้บุยคุณช้าที่ช่วยปลดปล่อยให้มีอิสรภาพ
หากมิใช่ให้รอดชีวิต ข้าต่อสู้แทนพระราชินีในการอื่นมาแล้ว
ดังนั้นทำไมข้าจะไม่ต่อสู้ในกรณีของตนเองเล่า และอีกอย่าง
ข้าเคยต่อสู้เพื่อท่านมาแล้วเหมือนกันนะ เวอร์การเวก
และช่วยให้ท่านพ้นความตายอันไร้เกียรติด้วย*
*ณ บัดนี้มีอ๊อร์กนีย์
เหลืออยู่สองคน*
การเวกสลัดศรีษะไปข้างหลัง
*พระราชาอาจจะทรงกระทำการตามแต่พระทัย ข้าเองตัดสินใจไว้แล้ว
หกเดือนก่อนหน้านี้เมื่อข้าพบเซอร์กาเรธ นอนตายจมกองเลือด ไม่ได้ถืออาวุธ*
*ต่อหน้าพระเจ้า
ข้าปรารถนาให้เขามีอาวุธ เขาจะได้ต้านทานการต่อสู้กับข้าได้และเขาอาจจะฆ่าข้าตาย
จะได้ช่วยให้ข้าพ้นทุกข์จากความทรมานนี้*
*ช่างพูดได้เพราะสูงส่งเหลือเกิน*
ชายสูงอายุรีบพูดออกมาเป็นพรุสวาทแก่ใครก็ตามที่ยอมฟัง
*ทำไมท่านอยากเชื่อว่า
ข้าอยากฆ่าพวกเขาเล่า ข้าเป็นคนแต่งตั้งกาเรธเป็นอัศวินนะ ข้ารักเขา
วินาทีที่ช้าได้ยินว่าเขาตายแล้ว ข้ารู้ว่าท่านไม่มีวันยอมให้อภัย ข้ารู้ว่าความหวังสิ้นสุดลงแล้ว
การฆ่าเซอรืกาเณธนะ มันขัดกับจรรยาบรรณของข้านะ*
มอร์เดร็ดกระซิบ *มันขัดต่อใจของเรา*
ลานซ์สลอ์ต
พยายามหว่านล้อมเป้นครั้งสุดท้าย
*การเวก
อภัยให้ช้าเถิด หัวใจช้าเจ็บปวดเหลือแสนสำหรับสิ่งที่ข้าทำไป
ข้ารู้ว่ามันทำร้ายหัวใจท่านมากเพียงไร เพราะมันทำร้ายหัวใจของข้าเช่นกัน
ท่านจะไม่ยอมให้ประเทศเรามีสันติสุขหรือ
หากข้าสำนึกผิดก็อย่าบีบให้ข้าต้องต่อสู้เพื่อรักษาชีวิตเลย
แต่ปล่อยให้ช้าจาริกแสวงบุญไป เพื่อเห็นแก่กาเรธเถิด ข้าจะออกเดินทางจากแซนด์วิช
โดยสรวมเสื้อตัวเดียว และเดินเท้าเปล่าไปยังคาร์ไลส์ล
และข้าจะสร้างวัดอุทิศให้เขาทุกๆสิบไมลืระหว่างทาง*
*เลือดของกาเรธ มอร์เดร็ดกล่าว* *จะต้องไม่ได้รับการชดใช้ด้วยการสร้างวัด
ไม่ว่าท่ายบิชอบจากโรเชสเตอร์จะพอใจหรือไม่เพียงใด*
ความอดทนของอัศวินสูงอายุสิ้นสุดลง
*หุบปากเสีย*
การเวกเป็นฟฟืนเป็นไฟขึ้นโดยฉับพลัน
*ทำตัวให้ดีนะเจ้าฆาตกร
หากไม่เราจะแทงเจ้าให้ตาย แทบพระบาทของพระราชา นี่แหละ*
*จะต้องใช้ใ*
ท่านบิช๊อบเขาขวางไว้อีกครั้ง
*เซอร์ลานซลอตได้โปรดเถิด
ขอให้เราบางคนได้ควบคุมอารมณ์ และสมบัติผู้ดีไว้ตรมควรเถิด การเวก นั่งลง
เราได้ข้อเสนอจะปฏิบัติการสำนึกบาปจะชดใช้แก่เลือดของกาเรธ
ซึ่งจะทำให้สงครามยุติลงได้ ขอคำตอบจากท่านด้วยเถิด*
หลังจากเกิดความเงียบที่ทุกคนคาดหวังคำตอบอยู่ครู่หนึ่ง
ชายร่างยักษ์ผมสีทรายก็กล่าวด้วยเสียงสูงขึ้นว่า
*ข้าได้ฟังคำเสนอของเซอร์ลานซลอตและข้อเสนอที่ยิ่งใหญ่ของเขาแล้ว แต่ทว่าเขาได้สังหารน้องชายของข้าไป
ข้าไม่มีวันให้อภัยได้ ด้วยเขาทรยศต่อเซอรืกาเรธ หากท่านน้าของข้าพระเจ้าอาร์เธอร์
มีพระประสงค์จะยอมคล้อยตามเขา พระราชาก็จะสูญเสียความภักดีของข้าและชาวเกลทุกคน
ไม่ว่าเราจะพุดถึงเรื่องนี้อย่างไร เราต่างก็รู้ความจริง ชายคนนี้เป็นคนทรยศที่ถูกเปิดโปงต่อพระราชาและตัวข้า*
*ไม่มีใครสักคนยังมีชีวิตอยู่เรียกข้าว่าคนทรยศนะ
การเวกข้าอธิบายเรื่องพระราชินีไปแล้ว*
*พอกันทีเรื่องนั้น
ข้าไม่ขอพูดอะไรเกี่ยวกับสตรีคนนั้น หากไม่บังควรจะพูด ข้าพูดถึงการตัดสินวินิจฉัยเจ้าต่างหาก*
*หากเป็นพระราชวินิจฉัยข้าจะขอน้อมรับ*
*พระราชาทรงตกลงกับข้าแล้วก่อนเจ้าจะมา*
*อาร์เธอร์*
*กราบบังคมทูลพระราชาตามพระอิสริยยศด้วย*
*ขอเดชะเป็นความจริงหรือนี่*
พระองค์ทรงค้อมพระเศียร
อย่างน้อย
ขอข้าได้ยินจากพระโอษฐ์ด้วยเถิด*
มอร์เดร็ด ทูลว่า *ตรัสซี่ท่านพ่อ*
พระองค์ได้แต่ส่ายพระเศียร
แต่พระเนตรจรดอยู่แทบพระบาท
*ตรัสซิ*
*ลานซลอต* พระสุรเสียงรับสั่ง
*เจ้ารู้ว่าความจริงขวางกั้นเราไว้อย่างไร โต๊ะกลมของข้าทลายไปแล้ว อัศวินของข้า
ถ้าไม่ตายก็จากไป ข้าไม่เคยหาเรื่องวิวาทกับเจ้า*..... *Or me or you
*
*แต่เราจะยุติมันมิได้หรือ*
"การเวกบอกว่าใดั*
"พระองค์เริ่มรับสั่งเบาแสนเบา
*การเวก*
*ความยุติธรรม*
การเวกลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางเจ้าเลห์
คุกคาม ยืนตระหง่าน หน้าง้ำ
*พระราชาผู้เป็นเจ้าเหนือหัวของข้า
และท่านน้าของข้า ศาลมีประสงค์จะให้ข้าอ่าน คำพิพากษาต่อหน้าคนทรยศเนรคุณ ผู้นี้*
เกิดความเงียบกริบกันไปทั่ว
*ใช่ไหม-ถ้าเช่นนั้นขอให้ทุกคนรู้ว่านี่เป็นพระราชโองการ*
*พระราชินีจะทรงกลับคืนสู่พระราชาด้วยเสรีภาพเช่นเดิม
และนางจะไม่มีภยันตรายใดๆตามที่คาดไว้ก่อนหน้านี้และนี่เป็นเจตนารมณ์ของพระสันตะปาปา*
*ส่วน เจ้า เซอร์ ลานซล็อต เจ้าจะต้องถูกเนรเทศจากราชอาณาจักรนี้ภายในสิบห้าวัน
ในฐานะคนเนรคุณที่ถูกเปิดโปง และพระเจ้าโปรดเป็นสักขีพระยาน
เราจะตามเจ้าไปหลังจากเวลานั้น
เพื่อทำลายประสาทที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศฝรั่งเศสให้ลงมากองบนธรณีท่วมหูเจ้า*
*การเวก* เขาขอร้องอย่างเจ็บปวด
*อย่าตามข้าไปเลยข้าจะน้อมรับการถุกเนรเทศ
ข้าจะใช้ชีวิตอยู่ในประสาทฝรั่งเศสของข้า แต่อย่าตามข้าไปเลย การเวก
อย่าให้สงครามยืดเยื้อตลอดกาล*
*ปล่อยให้เรื่องนั้นเป็นวิจารณญาณของคนที่ดีกว่าเจ้าเถิด*
ปราสาทนั้นเป็นพระราชสมบัติ*
*ถ้าท่านตามข้าไปนะ การเวก
ก็ขออย่าท้าข้าสู้เลย อย่าให้อาร์เธอรืมาสู้กับข้า
ข้าไม่สามารถสู้กับเพื่อนของข้าได้ การเวกโปรดเห็นแก่พระเจ้าเถิด
อย่าทำให้เราต้องสู้กันเลย*
*เลิกพูดได้แล้ว มอบตัวพระราชินีมา
แล้วออกจากราชสำนักนี้ไปเร็วไว
ลานซล็อต เขามองดูพระพักตรของกษัตริย์แห่งอังกฤษแล้วเลยไปที่ผู้สร้างความทรมานใจให้แก่เขา
เขาหันหน้าอย่างช้าๆสู่พระราชินีผู้วึ่งไม่ได้เอยพระโอษฐ์ตรัสอะไรสักคำ
มันเป็นโศกนาฎกรรมที่เขาต้องก้าวข้ามด้วยความสูงส่งด้วยศรีษะที่เชิด
*ถ้ากระนั้น ข้าแต่พระนาง
ดูเหมือนว่าเราต้องจากกันแล้ว*
นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่ เซอร์ลานซล็อต
พระเจ้าอาร์เธอร์ และพระนางกวินีเวียร์ อยู่ด้วยกันพร้อมหน้า
นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่
เซอร์ลานซล็อต พระเจ้าอาร์เธอร์ และพระนางกวินีเวียร์ อยู่ด้วยกันพร้อมหน้า
ห่านป่าที่กระพือปีกกลับรังในยามสนธยาแทบฝ่ากระแสลมไปไม่ไหว
ในมหาสมุทรทิศตะวันตก มีลมและไซโครน ทำให้ท้องทะเลปั่นป่วน หอบน้ำเป็นเกลียวพวยพุ่งจากผิวน้ำ
พวยพุ่งเป็นลำและแตกกระเซ็นเป็นฟองฟู ต้นไม้ล้มระเนระนาดบนภาคพื้นแผ่นดิน Sycamore เป็นต้นไม้จำพวก Ficus sinvsycomorus หรือ occidentalis มีลักษณะทางตะวันตก
เป็นต้นไม้เนื้อแข็ง และมีลำต้นแยกเป็นสองต้น
และแต่ละต้นก็ส่งเสียงคำรามเข้าใส่กัน
กิ่งไม้ถูกลมฝนกระหน่ำหักพาดลำต้นแน่นิ่งอยู่กับพื้นดินทำให้ฝูงนกบินถลาร่อนขนานพื้นทำให้กรงเล็บของแต่ละตังคลี่ตัวออกมาทำหน้าที่เป็นคล้ายสมอเรือรบเหยี่ยว
เพเรกกิน เกาะอยู่บนหน้าผาขนเปียกชุ่มจนลู่แนบลำตัว
ใต้บานประตูของปราสาท
ลมกระแทกใส่เสื่อกกปูพื้น ส่งเสียงวาบวินอยู่ภายใต้บันใดเวียน
เขย่าบานเกร็ดสั่นสะเทือนผ่านหน้าต่างกระจกหนา หอคอยสั่นสะเทือนเหมือนเสียงดนตรี
ลาคอนชาโต้ขนานกับสายลม
กระทบคลื่นเสียงผ่านแนวระนาบสัมผัสพรมปักด้วยดิ้เงินแวววาวดังกระหึ่มเหมือนมีเครื่องสายนำโดยแชลโล่ของ
นักแต่งเพลงชื่อดัง *มารี มายรัส* ในเพลง *ระฆังของเทพยดา จีนิวีบ*....
บอร์ส
และ เบลโอเบรีสกำลังหมอบเหนือกองไฟลุกโพลง เหมืนในภาพวาด..
*แต่ทำไมพวกเขาไปกันเร็วนักเล่า*
บอร์สถามอย่างมีข้อกังขา
*ข้าไม่เคยเห็นกองทัพที่ไหนยกกำลังมาล้อมเมืองไว้แต่ก็ยกทัพกลับอย่างรวดเร็วขนาดนั้น
โดยที่พวกเขารื้อถอนค่ายไปเพียงแค่ชั่วข้ามคืนหายไปหมดเหมือนถูกลมหอบไป*
*คงจะได้ข่าวร้าย คงจะต้องมีเรื่องไม่ชอบมาพากลในอังกฤษเกิดขึ้นก็เป็นได้*
*ถ้าพวกเขาต้องการยกโทษให้ลานสล๊อตก็คงส่งสาสน์มาแล้ว*
*ดูแปลกอยู่หรอกโดยกลับไปปุบปับโดยไม่บอกกล่าว*
*เจ้าคิดว่าอาจเกิดกบฏขึ้นใน
คอร์นวอลล์ หรือเปล่า หรือในเวลล์หรือบางทีในไอร์แลนด์*
*มีพวกบรรพชนอยู่นี่นา*
เบลโอเบรีสเห็นพ้องออกอาการมึนงง
*ข้าไม่คิดว่าเป็นเรื่องกบฏนะ
ข้าคิดว่าพระราชาทรงประชวร และต้องอัญเชิญกลับโดยด่วน หรือไม่การเวกต้องป่วยหนัก ที่โดนลานสล๊อตฟาดด้วยโล่
ให้เป็นกำนัลถึงสองครั้ง อาจจะโดนที่ศิรษะของเขาอย่างจัง*
*ก็เป็นได้*
บอร์สเคาะไฟแรงๆ
*จากไปแบบนั้น แล้วก็ไม่พูดอะไรสักคำ*
*ทำไมลานสล๊อตไม่ทำอะไรบ้างละ*
*จะให้เขาทำอะไรได้*
*ไม่รู้สิ*
*พระเจ้าอยู่หัวขับเขาออกจากประเทศนี่*
*ใช่*
*ง้นก็ไม่มีอะไรให้ทำเลย*
*ถึงอย่างไร*
เบลโอเบริส กล่าว *ข้าก็หวังว่าเขาจะทำอะไรบ้าง*
ประตูที่ตีนบันไดเปิดออกพร้อมด้วยเสียงย่ำบันไดเวียนลงมาจากหอคอยเล็ก
พรมทำด้วยต้นกกตั้งตรงขึ้น ควันพวยพุ่งจากกองไฟในเตา
และเสียงของลานสล๊อตดังรอดเสียงลมลั่น
*บอร์ส เบลโอริส เดมาริส*
*อยู่ตรงนี้*
*ตรงไหน*
**บนนี้
ได้ยินเสียงประตูปิดดังมาไกลๆ ความเงียบกลับเข้ามาในห้อง เสื่อทอต้นกกล้มลงพื้นกลับเข้าที่เดิม และเสียงฝีเท้าของลานสล๊อตดังชัดเจนขึ้นสะท้อนก้องตามขั้นบันใดหิน
ทั้งๆที่เมื่อสักครู่เสียงตะโกนของเขาฟังแทบไม่ออก
เขาเข้ามาอย่างรีบร้อนมือถือจดหมาย ลั่นเสียงกระแอมไอ *บอร์ส เบลโอริส เดมาริส*
*ข้าตามหาเจ้าอยู่*
*มีจดหมายมาจากอังกฤษ*
พวกเขายืนขึ้น
*นกส่งสารถูกพัดขึ้นฝั่ง
ไกลจากชายฝั่งที่นี่ขึ้นไปห้าไมล์*
*เราต้องออกเดินทางทันทีเลย*
*”ปอังกฤษหรือ*
*ใช่*
*ฬว่
ไปอังกฤษซิ ข้าได้บอกไลน์โอแนล ให้จัดการเรื่องพาหนะแล้ว
และข้าต้องการให้เจ้า บอล์ส จัดการเรื่องเสบียงนะ*
*เราต้องรอให้กำลังลมอ่อนตัวลงก่อน*
*เราจะไปทำไมหรือ*
บอล์สถาม *ท่านต้องบอกเราว่ามีข่าวอะไร*
*ข่วหรือ*
*ข่าหรือ*
เขาพูดตะกุกตะกักสุ้มเสียงคลุมเครือ
*ยังไม่มีเวลาสำหรับช่าวหรอก
ข้าจะเล่าให้ฟังในเรือ เอ้า อ่านจดหมายนี่ก่อน*
เขายื่นจดหมายให้บอล์ส
แล้วออกไปก่อนที่พวกเขาจะทันตอบ *ว่าไง*
*อ่านสิ*
*ข้าไม่รู้ว่าใครเขียนมาด้วยซ้ำ*
*อ่านไปก็คงรู้เองน่า*
ลานสล๊อตกลับเข้ามาก่อนที่พวกเขาจะอ่านได้ไปไกลกว่าวันที่
*เบลโอโบริส*เขาบอก *ข้าลืมไป
ข้าต้องการให้เจ้าดูแลเรื่องม้า เอาจดหมายมาก่อน ถ้าเจ้าสองคนค่อยๆสะกดละก็
เจ้าต้องอ่านอยู่ทั้งคืนแน่*
*เขียนมาว่าอย่างไรละ*
*ข่าวนี้มาจากนกสื่สาร
ดูเหมือนว่า มอร์เดร๊ดเป็นกบฏต่อพระเจ้าอาณ์เธอร์ ประกาศตนเป็นประมุขแห่งอังกฤษ
และเขาได้ขอให้ วอนีเวียร์ แต่งงานกับเขา*
*แต่นางแต่งงานแล้วนี่*
เบลโอเบรีสท้วง
*นั่นเป็นสาเหตูที่พวกนั้นเลิกปิดล้อมพวกเราไง*
*แล้วดูเหมือนว่ามอร์เดร้ดยกทัพไปรวมที่เค็นต์
เพื่อขัดขวางไม่ให้พระเจ้าอยู่หัวขึ้นฝั่ง*
*เขาประกาศไปว่าพระเจ้าอาร์เธอร์ทรงสวรรคตแล้ว*
*เขากำลังล้อมจับพระราชินีโดยระดมยิงปืนใหญ่ไปที่หอคอยแห่งลอนดอน*
*ปืนใหญ่*
*ใช่
เขามารอพบอาร์เธอร์ที่โดเวอร์ และทำการสู้รบเพื่อมิให้พระองค์ขึ้นฝั่ง สู้กันทั้งบนบกและในน้ำ
แต่พระเจ้าอยู่หัวทรงขึ้นฝั่งได้ รอวันประกาศชัยชนะ*
*ใครส่งจดหมายมา*
ลานสลอ๊ตทรุดตัวลงนั่งทันที
*มาจาก ขุนพลการเวก*
*การเวกที่น่าสงสาร
เขาตายแล้ว*
เบลโอเบริสตั้งกระทู้
*ตายแล้วเขียนได้อย่างไร*
*สารนั้นอ่านแล้วน่าสลดใจเหลือเกิน*
*การเวกเป็นคนดี
พวกเจ้าทุกคนที่บังคับให้ข้าสู้กับเขา โดยไม่ได้เห็นแก่จิตใจที่งดงามของเขา*
*อ่าซิ* ฮอร์สบอกกล่าวอย่างร้อนใจ
*ดูเหมือนว่าแผลที่ข้าฟาดหัวเขามันฉกรรจ์มาก
เขาไม่ควรจะรีบเดินทางไปหรอก แต่เขาว้าเหว่ทุกข์ทรมานและถูกหักหลัง*
น้องชายคนเล้กกลายเป็นคนทรยศ เขายากรานจะกลับไปช่วยพระเจ้าอยู่หัว ในศึกตอนขึ้นฝั่ง
เขาพยายามจะสู้ เคราะห์ร้ายเขาถูกตีซ้ำตรงลอยแผลเก่า และเสียชีวิตในอีกสองสามชั่วโมง
ต่อมา
*ข้าไม่เห็นว่าทำไมเจ้าถึงต้องเดือดร้อนขนาดนี้*
*ฟังจดหมายนี่สิ*
*ลานสลอ๊ต
ถือจดหมายไปที่หน้าต่างและเงียบลง ขณะที่พินิจดูจดหมาย
มีอะไรที่หน้าตื้นตันอยู่ในนั้น*
*แต่เซอร์ลานสล๊อต
ยอดอัศวินผู้สูงส่งโดยที่ข้าได้ประจักษในชีวิตของข้า ข้า-เซอร์การเวก
อัศวินโต๊ะกลมโอรสของพระเจ้า ล๊อต แห่งอ๊อกนีย์
บุตรแห่งพระเชษฐ์ภคินีแห่งพระเจ้าอยู่หัวอาณ์เธอร์ผู้ประเสริฐ
ขอแสดงความเคารพมายังท่าน*
*และข้าขอให้โลกทั้งโลกตระหนักว่า
ข้าเซอร์การเวก ขอตายด้วยน้ำมือของท่าน และมิใช่ด้วยเจตนาของท่าน แต่เป็นเจตจำนงของข้าเอง ข้าขอวิงวอนให้ท่าน เซอร์ลานสล๊อต กลับสู่ราชอาณาจักรแห่งนี้อีกครั้ง
เพื่อมาเยี่ยมหลุมศพของข้า และสวดภาวนาให้แก่หลุมศพที่ข้านอนรอคอยท่านอยู่โปรดภาวนาให้แก่ดวงวิญญาณของข้าด้วยข
และวันนี้ที่ข้าเขียนสาสน์ฉบับนี้
ข้าบาดเจ็บถึงฆาตด้วยบาดแผลที่มาจากน้ำมือท่าน เซอร์ลานสล๊อต ด้วยข้าพอใจที่จะไม่ถูกสังหารด้วยบุคคลผู้ประเสริฐไปกว่านี้อีกแล้ว.
*นอกจากนั้น เซอร์ลานสล๊อต
เพื่อความรักที่มีอยู่ระหว่างเรา....*
ลานสล๊อต
หยุดอ่านและโยนสาสน์ลงบนโต๊ะ *เอา* เขาบอก *ข้าอ่านต่อไปไม่ไหวแล้ว
เขาขอให้ข้ารีบเดินทางไปเพื่อช่วยพระเจ้าอยู่หัวต่อสู้กับน้องชายของเขาและญาติคนสุดท้ายของเขา
การเวกรักญาติของเขามากนะ บอร์ และท้ายที่สุดเขาก็ไม่เหลือใครเลย แต่เขายังเขียนมายกโทษให้ข้า เขาบอกด้วยซ้ำว่าเป็นความผิดของเขาเอง
พระเจ้าทรงทราบว่าเขาเป็นพี่ชายที่ดีเหลือเกิน*
*แล้วเราจะทำอย่างไรเรื่องพระเจ้าอยู่หัว*ฃ*เราต้องไปอังกฤษให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
มอร์เด็รดถอยทัพไปที่แกรนเบอรี่แล้ว
เขากำลังจะออกศึกครั้งใหม่ที่นั่น
ตอนนี้มันอาจจะจบลงแล้วก็ได้
ข่าวนี้มาถึงล่าช้าเพราะติดพายุ ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับความเร็วแล้ว*
/เบลโอเบริสบอกว่า *ข้าจะไปดูเรื่องม้า เราจะออกเรือกันเมื่อไหร่*
*พรุ่งนี้ คืนนี้ เดี๋ยวนี้เลย
เมื่อลมซาลง เร็วเข้าเถิด*
*แล้วเจ้านะบอร์ส เรื่องเสบียง*
*ตกลง*
บอร์สซึ่งเหลืออยู่คนเดียวกับลมพายุ
หยิบจดหมายขึ้นมาอย่างกระหายไคร่รู้ เขาตะแคงจดหมายลงรับแสงไฟทีเริ่มจะอ่อน
เขาสะกดตอนท้ายจดหมาย ปากขยับอ่านคำ
*และวันที่ข้าเขียนจดหมายฉบับนี้
เพียงสองชั่วโมงครึ่งก่อนความตายมาถึง เขียนด้วยลายมือของข้าเอง
และจารึกนามไว้ด้วยเลือดจากหัวใจข้า ต้องมีสักวันหนึ่งที่พระราชาผู้ชราจะทรงพระปรีชาและพระหฤทัยรู้สึกสดชื่นขึ้น
แบละพร้อมจะเริ่มต้นใหม่ จะมีสักวันหนึ่ง
ที่พระองค์จะเสด็จกลับมาสู่ดินแดนนกการเวก พร้อมด้วยโต๊ะกลมตัวใหม่ที่ไม่มีเหลี่ยม
ดังเช่นในโลกใบนี้ก็ม่มีเหลี่ยม.. ต้องมีวันหนึ่งสัญชาตญาณระมัดระวังกษัตริย์องค์เก่าพร้อมด้วยอัศวินในหัวใจที่รู้สึกสดชื่น
พร้อมที่จะกลับมาสู่แผ่นดินดินอีกา และก็พร้อมที่จะเริ่มต้นสร้างนกวายุพักตร์โดย เหยีบย่ำแผ่นดินวายุภักษ์
พร้อมกับ ลบเหลี่ยมใหม่โดยไม่ต้องสร้างโต๊ะให้เป๊นวงกลม ในขณะที่โลกต้องการมากกว่า
อัศวินโตะกลม.. ที่จะปฏิรูปวัฒนธรรมหวังว่าการเป็นเยาวชนในการเขียนและอ่าน
ด้วยสติและเหตุผล
อัศวินการเวก-แห่งอ๊อกนีย์*
No comments:
Post a Comment